รับประทานยาตามที่แพทย์กำหนด ทุกมื้อ และทุกวันเลยเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงเวลาด้วยตนเอง ยาที่แนะนำให้กินพร้อมอาหารหรือหลังอาหาร ทันทีเพื่อการดูดซึมยาอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ Rpv,.


ยาจำพวกบรรเทาอาการปวดหรือลดไข้ (analgesics or antipyretics) ยกเว้น ก แอสไพริน ( aspirin) ที่ผลิตขึ้นเป็นยาบรรจุเสร็จ และมีข้อบ่งใช้บรรเทาปวด โดยมี รายละเอียดของความแรง รูปแบบยา. โดยปกติแล้ว เวลาคุณหมอหรือคุณเภสัชกรจ่ายยาให้เรา จะมีการแนะนำการใช้ยาอยู่แล้วว่ายาแต่ละตัวใช้เพื่ออะไร ควรกินตอนไหน ปริมาณเท่าใด กินเมื่อมีอาการ. ยาอันตรายที่ควรทราบ คือ “ยาปฏิชีวนะ” ซึ่งเป็นยาที่ได้จากเชื้อราหรือแบคทีเรียบางชนิด ที่สามารถหยุดยั้งการเจริญและทำลายแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์อื่น ๆ โดยทั่วไปรู้จักกันในชื่อของยาฆ่าเชื้อ.

หากลืมรับประทานยา เชื่อว่า หลายคนคงเคยลืมทานยา พอนึกขึ้นก็รีบลุกไปทานยาทันที แต่หากช่วงเวลาที่คุณหลงลืมไปนั้น ใกล้ถึงเวลาในมื้อต่อไป ก็ขอให้ข้ามมื้อที่ลืมไป.


การทานยาจำเป็นต้องทานให้ครบตามที่แพทย์สั่งทุกตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการทานยานั้นๆ ค่ะ กรณีที่เป็นยาทั่วๆไป เช่น ยาแก้หวัด แก้ไอ ยาลดไข้ ที่ทานตามอาการ. ใครบ้างที่ควรได้รับยาเป็ป pep ยาเป็ป ใช้สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี หรือ คาดว่าเพิ่งมีการสัมผัสเชื้อเอชไอวีโดยจะต้องปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้. ขึ้นอยู่กับชนิดของยาที่รับประทานว่าเป็นชนิดใดเนื่องจากยาแต่ละชนิดจะแตก ต่างกัน เช่น หากเป็นยาแก้ปวด แก้แพ้ ที่รับประทานแล้ววันละครั้งแล้วสามารถควบคุมอาการได้.

นอกจากนั้นยาที่ใช้ป้องกันการคลื่นไส้อาเจียน เช่น ไดเมนไฮดริเนท และยาเมโทโคลปราไมด์ ต้องกินก่อนอาหาร 30 นาที.


เกณฑ์ที่จะช่วยพิจารณาได้คร่าวๆ ว่ายาอะไรที่ไม่จำเป็นจะต้องกินให้หมดตามที่แพทย์จ่ายมา (ยกเว้นไว้ในกรณีที่แพทย์สั่งเป็นอย่างอื่น) มีดังนี้ * ยาที่ใช้สำหรับบรรเทาอาการ/โรคที่เกิดเป็นครั้งคราว. รับประทานยาตามที่กำหนด ตรงเวลา และทุกวัน อย่าเปลี่ยนยาด้วยตนเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ หากจะใช้ยาอื่นนอกเหนือที่แพทย์สั่ง ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนทุกครั้ง. ต้องกินก่อนอาหารอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพราะยานี้จะดูดซึมได้ดีตอนท้องว่าง ส่วนใหญ่จะเป็นยาปฏิชีวนะ ยกเว้นยาบางตัวที่ระคายเคืองกระเพาะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน.